การเจาะอวัยวะต่างๆของร่างกายมีมาตั้งแต่ยุคอียิปต์และโรมันแล้ว ยุคนี้ก็มีคนนิยมเจาะกันมาก โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น และในที่สุดมันก็ระบาดเข้ามาถึงในคุก ลำพังรู (ทวาร) ต่างๆทั้ง 9 ของร่างกายเรา ก็ยังดูแลกันไม่ไหวอยู่แล้ว ผู้ต้องขังบางคนก็ยังดันทุรังเจาะรูเพิ่มขึ้นมาอีกให้เจ้าหน้าที่ปวดหัวเล่น......

การเจาะตามร่างกายมีมานานกว่า 5000 ปีแล้ว เช่น ฟาโรห์แห่งอียิปต์เจาะและฝังเครื่องประดับที่สะดือ ทหารโรมันเจาะที่หัวนมเพื่อบ่งบอกถึงความเข้มแข็ง ชาวมายันนิยมเจาะที่ลิ้น ฯลฯ ส่วนผู้ต้องขังที่ว่างมากเกินไป ไม่มีอะไรจะทำ ก็หันมาเจาะเลียนแบบตามนักร้องและนักแสดง

ข้อเสียของการเจาะมีมากมาย เพราะ นอกจากจะไปรบกวนเครื่องตรวจจับโลหะของเรือนจำแล้ว ก็ยังก่อปัญหาเรื่องการติดเชื้อ ไวรัสตับอักเสบและเชื้อไวรัสเอดส์ และ เสี่ยงต่อการอักเสบเป็นหนอง สิ้นเปลืองงบประมาณของเรือนจำในการรักษา

?

จากการสำรวจการเจาะร่างกายของนักศึกษาในมหาวิทยาลัย Florida พบว่ามีอัตราการติดเชื้อสูงถึง 45%

การเจาะในเรือนจำจะเสี่ยง กว่าหลายเท่า เมื่อเข้ามาอยู่ในเรือนจำ ผู้ต้องขังที่มีตุ้มหูจะถูกสั่ง ให้ถอดออกหมด ยกเว้นพวกที่อยู่ในร่มผ้าอาจหลงหูหลงตาไปบ้าง ส่วนการเจาะในเรือนจำนั้น มักจะลงเอยด้วยการมารักษาแผลติดเชื้อที่สถานพยาบาลเกือบทุกราย นอกจากนี้ ผลข้างเคียงของการเจาะตามร่างกายที่อาจพบได้ก็คือแผลเป็นซึ่งบางทีก็มีขนาดใหญ่มาก